บทบาทของเพศวิถีศึกษา
บทบาทของเพศวิถีศึกษา บทบาทของเพศวิถีศึกษา บทบาทของเพศวิถีศึกษา ( Significant roles of sexuality education) คือ การกำหนดความสำคั...
บทบาทของเพศวิถีศึกษา
บทบาทของเพศวิถีศึกษา
************************

บทบาทของเพศวิถีศึกษา
บทบาทของเพศวิถีศึกษา (Significant
roles of sexuality education) คือ
การกำหนดความสำคัญของการศึกษาเพศวิถี เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนัก
และเห็นคุณค่าของการรู้และเข้าใจหลักพื้นฐาน ความหมาย
และสาระสำคัญของการศึกษาเพศวิถีศึกษา ซึ่งเพศวิถีศึกษามีบทบาทสำคัญต่อการเรียนการสอนของนักเรียน
ดังนี้
1.
ช่วยให้แต่ละคนเข้าใจและยอมรับหน้าที่ตามเพศของตน
2.
เข้าใจความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะเพื่อน ให้เกียรติกัน
3.
ตระหนักถึงความแตกต่างในลักษณะการนึกคิดและพฤติกรรมทางเพศ และยอมรับความแตกต่าง
4. เข้าใจการเลือกคู่
5.
เข้าใจการเตรียมตัวรับผิดชอบต่อครอบครัว
6.
เข้าใจการเลี้ยงดูบุตรธิดาให้เติบโตเป็นพลเมืองดี
นอกจากนี้ในเชิงการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ
นักวิทยาศาสตร์ และองค์กรระหว่างประเทศได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับเพศวิถีศึกษา
โดยเฉพาะบทบาทการศึกษาในสถาบันการศึกษาด้วยเห็นว่าชีวิตและสุขภาวะของเด็กและเยาวชนนั้นถูกคุกคามในบริบทต่าง
ๆ เช่น การทารุณล่วงละเมิด
ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจตั้งแต่อายุยังน้อย
การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งรวมถึงเอชไอวี หรือการถูกตีตรา
และเลือกปฏิบัติเพราะรสนิยมทางเพศ (Sexual orientation) ของตน ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องศึกษาเรื่องเพศวิถี โดยตั้งอยู่บนหลักการที่ว่าเด็กและเยาวชนมีความจำเป็นอันจำเพาะเจาะจงที่จะต้องได้รับความรู้และทักษะที่เกี่ยวกับ
เพศวิถีศึกษา ที่สามารถส่งเสริมเด็กและเยาวชนมีโอกาสที่ดีขึ้นในชีวิตได้ (1)
จากที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า
เพศวิถีศึกษามีบทบาทสำคัญช่วยให้นักเรียนมีความรู้
และเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขอนามัยทางเพศ
รู้จักวิธีการเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่นตามหลักการมีความสามารถในการประเมินโอกาสเสี่ยงจากพฤติกรรมทางเพศ
และปัญหาจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่พร้อม ตลอดจนตระหนักรู้ในคุณค่าของตนเอง
สร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจเลือกแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาวะ
ทั้งนี้
การเข้าใจในบทบาทของเพศวิถีศึกษา อาจรวมความในประเด็นสำคัญด้านอื่น ๆ ดังจะกล่าวต่อไป <<
โปรดติดตามได้ที่นี่ >> โดยได้ศึกษา มิติมุมมองของเพศวิถี
มาก่อนหน้านี้แล้ว << กรุณาอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ >>
อ้างถึง: (1)
โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ, 2552 : 8